1-ความเป็นหนึ่งเดียวสามัคคีกันของโลกอาหรับ(ซึ่งนั้นหมายถึงอิสลามนั่นเอง)
2-ขบวนการอิควานอัลมุสลิมูน
เเล้วเเผนการณ์ก็เริ่มขึ้น…
อุปสรรคอันเเรกคือ กษัตริย์ฟารุก เเม้ว่าตัวพระองค์นั้น จะเป็นกษัตริย์ที่อ่อนเเอเเละล้มเหลวเกือบจะทุกอย่าง เเต่ในเรื่องการยืนหยัด เพื่อสามัคคีกันระหว่างอาหรับนั้น พระองค์ทรงเข้มเเข็งมาก และในช่วงปี ค.ศ.1951(พ.ศ.2494) หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบไป กองกำลังที่เป็นศัตรูกับกษัตริย์ฟารุกได้พยายามจะกำจัดพระองค์ เเละได้หาคนมาเเทนด้วย มันคือการฆ่านกสองตัวด้วย ก้อนหินก้อนเดียว นั่นคือการหาคนที่จะมาเเทนกษัตริย์ฟารุก พร้อมกันนั้นก็กำจัดขบวนการอิควาน
ไปด้วย เเละเเล้ว นัสเซอร์ก็ถูกเลือกให้เป็นคนๆนั้น ปี1952(พ.ศ.2495) กษัตริย์ฟารุกจึงถูกโค่นล้มไป นัสเซอร์นั้นจับเเละขังสมาชิกอิควานไปเสียถึงห้าหมื่นกว่าคน เเต่กระนั้นเค้าก็ยังเเสดงให้โลกรู้ว่าเค้าอยู่ฝ่ายอาหรับ โดยการเเสดงบทเป็นเจ้าเเห่งอาหรับนิยม เป็นต้น เเต่สิ่งที่เขาได้ทำให้เห็นไปนั้น โลกมุสลิมปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นั้นเป็นการเเสดงตัวตนออกมาว่า เขาคือตัวเเทนคนหนึ่งของลัทธิยิวไซออนิสต์ ที่ทำงานให้อย่างเเนบเนียนเป็นที่สุด!!
ฝากไว้… ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่นั้น ไม่มีผู้นำอาหรับท่านใดที่จริงใจจริงๆในการดูเเลศาสนาอิสลามของเรา พวกเขาเหล่านั้นล้วนเเล้วได้รับการศึกษาจากตะวันตก หรือได้รับ “การตัรบียะฮฺจากตะวันตก” (สำนวนของอาจารย์มาลิก)มาด้วยกันทั้งนั้น จะดีหน่อยก็มีกษัตริย์ไฟซอลของซาอุ ที่ได้ต่อต้านยิวเเละปลุกเร้าเยวชนอาหรับเเละมุสลิมทางวิทยุอยู่สมํ่าเสมอ เเละเป็นผู้เดียวในบรรดากษัตริย์ซาอุที่ประกาศว่า จะขอดูเเลมัสยิดสำคัญทั้งสาม(มัสยิดมักกะฮฺ มัสยิดนาบาวีย์ เเละมัสยิดอัลอักซอ) หาไช่เเค่สองที่เเรกเหมือนกษัตริย์ซาอุคนอื่นๆ(อิมามฮะรอมัยน์) พระองค์อุทิศชีวิตเพื่ออิสลามจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต-อินนาลิลลาหฺ _______________________________________________________
แหล่งที่มา http://smiana.wordpress.com/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/page/4/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น